ไพ่บาคาร่า นั้นเป็นเกมไพ่ชนิดหนึ่ง และเป็นเกมส์ที่คล้ายๆกับป็อกเด้ง แต่มันมีวิธีการเล่นที่ต่างกันเท่านั้นเอง เป็นการเดิมพันที่ใช้เป็นตัวทายผลของเกมส์นั้นเองซึ่งไพ่ในหนึ่งสำรับมีรูปแบบไพ่ที่แตกต่างกันออกไปและหน้าที่ไพ่แต่ละใบก็แตกต่างกันอีกด้วย สามารถเล่นได้ทีละหลายคนเพราะจะเป็นการลงเดิมพันระหว่าง Play กับ Banker ซึ่งในแต่ละเกมของ บาคาร่า จะใช้ไพ่ในการตัดสินสูงสุดเพียง 3 ใบ เท่านั้น
ไพ่บาคาร่า คืออะไร
เกมไพ่ บาคาร่า คือ อะไร เราจะลองมาทำความเข้าใจเจาะลึกเกี่ยวกับเกมไพ่นี้กัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ ประวัติความเป็นมาของเกมไพ่ กติกา,วิธีการเล่น,อัตราต่อรอง,และข้อมูลสำคัญของ ไพ่บาคาร่า กันว่ามันมีรายละเอียดอย่างไรกันบ้าง เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจก่อนที่จะ เล่นบาคาร่า กันอย่างจริงจัง โดยเกมไพ่ชนิดนี้ในปัจจุบัน มีการเล่นกันอย่างแพร่หลายและได้รับความนิยมอย่างมากจากนักพนันแถบเอเชีย โดยเฉพาะนักพนันชาวไทยจะชอบกันเป็นพิเศษ เพราะการเล่นนั้นมันเล่นง่าย มีกติกาที่ไม่ซับซ้อน มีความละม้ายคล้ายคลึงกับเกมไพ่ป๊อกเด้ง ซึ่งมีความสนุกสนานอยู่ในตัวอย่างมาก
แม้ว่าเกมไพ่บาคาร่านั้นจะมีกติกาการเล่นที่ค่อนข้างจะคล้ายกับ ป๊อกเด้ง แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ในการเล่นนั้นอาจจะสรุปอธิบายการย่อๆแบบรวบรัดก็คงต้องบอกว่า “บาคาร่า เราสามารถที่จะวางเดิมพันได้ทั้งสองฝั่ง (เลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง) ซึ่งจะมีให้เราเลือกวางเดิมพันอยู่ 2 ฝั่ง คือ เพลย์เยอร์ (ผู้เล่น) และ แบงค์เกอร์ (เจ้ามือ) หากฝั่งที่เราเลือกลงเดิมพันเอาไว้ได้ 9 แต้ม หรือ 8 แต้ม หรือ มีแต้ม สูงกว่าอีกฝั่งเราก็จะชนะได้เงินเดิมพันกลับไป”
วิธีการเล่นบาคาร่าออนไลน์
วิธีเล่นบาคาร่า จะใช้ ไพ่ 6 หรือ 8 สำรับซึ่งแต่ละสำรับมีไพ่ 52 ใบ รวมเป็นไพ่ทั้งหมด 312 – 416 ใบ วิธีเล่นบาคาร่าให้ได้เงิน ในการทายผลไพ่บาคาร่าจะแบ่งการเสี่ยงทายออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่าย “ เพลเยอร์ ” (PLAYER) กับฝ่าย “ แบงค์เกอร์ ” (BANKER)
โดยการเริ่มต้นจะมีการจ่ายไพ่ให้ฝ่ายละ 2 ใบ รวมเป็น 4 ใบ โดยไพ่ใบที่ 1 กับใบที่ 3 จะจ่ายให้ฝ่าย “ เพลเยอร์ ” ส่วนไพ่ใบที่ 2 กับใบที่ 4 จะจ่ายให้ฝ่าย “ แบงค์เกอร์ ” แต่ละฝ่ายจะจั่วไพ่ใบที่ 3 เพิ่มหรือไม่นั้นจะมีกฎ กติกา มากำกับ
ถ้าฝ่ายใดมีแต้มรวมของไพ่ใกล้เคียง 9 มากที่สุดฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ แต้ถ้าแต้มทั้งสองฝ่ายเสมอกันจะคืนเงินเดิมพันให้กับผู้เล่น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มี กฏกติกา วิธีเล่นบาคาร่า ที่เข้าใจง่าย
- เลือกวางเดิมพันว่า แบงค์เกอร์ (Banker) จะมีแต้มชนะ เพลย์เยอร์ (Player)
- เลือกวางเดิมพันว่า เพลย์เยอร์ (Player) จะมีแต้มชนะ แบงค์เกอร์ (Banker)
- เลือกวางเดิมพันว่า แบงค์เกอร์ (Banker) และ เพลย์เยอร์ (Player) จะมีแต้มออกมาเสมอกัน
- เลือกวางเดิมพันว่า เพลย์เยอร์ (Player) / แบงค์เกอร์ (Banker) ไพ่ที่ออกมาจะเป็นคู่
การนับแต้ม ไพ่บาคาร่า คือ
โดยทั่วไปแล้วไพ่ที่ใช้สำหรับการ เล่นบาคาร่า จะใช้ 6-8 สำรับ ( 1 สำรับมีไพ่ 52 ใบ) ซึ่งก็จะมีไพ่ที่ใช้เล่นอยู่ทั้งหมด คือ จำนวน 312-416 ใบ ซึ่งแต้มของไพ่แต่ละใบนั้น ก็จะมีวิธีการนับดังนี้
- ไพ่ทีมีตัวเลขทั้งหมด *ยกเว้น 10 ให้นับแต้มตามเลขที่กำกับหน้าไพ่แต่ละใบ (2,3,4,5,6,7,8,9)
- ไพ่ที่มีตัวเลข 10 ให้นับแต้มเป็น 0
- ไพ่ที่มีเป็นอักษร *ยกเว้น A ให้นับแต้มเป็น 0 (J,K,Q)
- ไพ่ที่มีเป็นอักษร A ให้นับแต้มเป็น 1
อัตราตอบแทนไพ่บาคาร่า
- ฝั่ง Player ชนะ มีอัตราการจ่ายที่ 1:1 เท่า
- ฝั่ง Banker ชนะ มีอัตราการจ่ายที่ 1:0.95 เท่า
- แทง Tie (เสมอ) ชนะ อัตราการจ่ายที่ 1:8 เท่า
- Player Pair อัตราการจ่ายที่ 1:11 เท่า
- Banker Pair อัตราการจ่ายที่ 1:11 เท่า
- Perfect Pair อัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:25 เท่า
บาคาร่า คือ เกมไพ่อันดับหนึ่งที่มีการเล่นกันมากที่สุด โดยเราสามารถพบเห็นเกมไพ่มีได้ตามบ่อนคาสิโนรอบ ๆ ประเทศไทย เช่น คาสิโนปอยเปต และยังสามารถที่จะสมัครเล่นในรูปแบบของ บาคาร่าออนไลน์ ที่ pananslotgame ได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย โดยในขณะนี้กระแสความนิยมการเล่นพนันแบบออนไลน์ถือว่ามาแรงอย่างมาก เพราะการพัฒนาของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ในราคาที่ประหยัด จึงทำให้ความนิยมในการเล่นแบบออนไลน์ ดูจะเป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้น สนใจสมัครเป็นสมาชิกได้ที่ สโบเบ็ต